วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

ครูบีสอนนักเรียนว่ายน้ำโดยมีอุปกรณ์ห่วงยางช่วยตอนที่2

“ถ้า...ยังนั้น เธอก็เป็น...ผี...นะซิ” เธอค่อยๆ หันมายิ้มให้กับผมและพี, วีระช้าๆ “ใช่แล้วจ๊ะพี่หนูเป็นผี ฮิ! ฮิ! อ!” บอกเสร็จเธอหัวเราะอย่างชอบใจแล้ว ใบหน้าของเธอก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปจากใบหน้าที่สวยงามได้รูป ปรากฏไ,ป็นใบ หน้าที่ซีดขาวเหี่ยวย่น ผิวพรรณที่ขาวนวลเกลี้ยงเกลาประดุจดังงาช้าง ก็เปลี่ยน
เป็นเน่าเปีอยมีนำเหลือง1ไหลเยิม แพยางโดนัสยักษ์  ผมอันดกดำค่อยๆ กลายเป็นสีเทา สำนึกสุดท้าย ผมจำได้ว่าพูดได้คำเดียวจรง “ผี”และก่อนที่สติสัมปชัญญะของผมจะดับวูบ ผม ได้ยินเสียง “โครม” แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลยเชน! เชน! เสียงเรียกแว่วอยู่ข้างๆหูผม ผมนึกในใจ นี่! เราอยู่ที่ไหน นรก หรือสวรรค์กันแน่ ทำไมมืดอย่างนี่เชน! เชน! เสียงนั้นยังคงเรียกซํ้าอีก ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ รู้สึกปวด บรืเวณหน้าผาก สิ่งแรกที่เห็นคือใบหน้าของพี่วีระปรากฏ มีผ้าก๊อตผืนเล็กๆ ติด ไว้บนหน้าผาก ผมค่อยๆ ตะกุกตะกักถาม“พี่วีระ ผมอยู่ที่ไหนนี่” พี่วีระจับมือผมบีบเบาๆ “ที่โรงพยาบาลเขาย้อยว'ะ ไอ้เสือ เอ็งสลบไปตั้ง 8 ชั่วโมง พี่คิดว่าเอ็งช็อค มากกว่าเจ็บว่ะ”แล้วพี่ละเป็นอะไรมากหรอเปล่า” ผมถามด้วยความเป็นห่วง พี่วีระยิ้ม เห็นฟันขาวเรียงรายเป็นระเบียบไม'เป็นไรหรอก นิดหน่อย” ผมขยับตัวจะลุกนั่ง พี่วีระขืนไหล่ผมไว้“อย่าเพิ่งลุกเลยนอนเถอะไม,ต้องห่วงอะไรทั้งนั้นพี่จัดการเรียบร้อยแล้ว” “แล้วผู้หณิงคนนั้นละพี่”ผมอดถามถึงเธอ'ไม่'ได้'ทั้งๆ ที่หลอกผมเกือบตาย พี่วีระถลึงตา'ใส่ผม“เอ็งจะถามหาหอกอะไรว่ะ  เธอตายไปตั้งนานแล้วซาวบ้านแถบนั้นที่ไป ช่วย เค้าเล่าให้ฟังเหมือนกับที่เธอเล่าให้ฟังนั่นแหละ  ห่วงยางโดนัสราคาถูก เธอถูกข่มขืนและฆ่า แต่ ฆาตกรก็ถูกฆ่าตายไปคนนึงก็แฟนเธอนั่นแหละ ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วน พวกที่เหลือต่างก็ทยอยกันเข้ามอบตัวจนครบทุกคน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียว กันว่า ถ้าไม่เข้ามอบตัวจะตายเหมือนแฟนเธอ” พี,วีระร่ายยาวเหยียด “รีว่าเอ็ง อยากจะเจอ พี่จะได้จุดรูปบอกเธอให้” ผมโบกมือปฏิเสธเสียงลั่นไม่ละพี่ขอบคุณในความหวังดี”แล้วผมกับพี่วีระก็หัวเราะกันอย่างครื้น เครง ลืมเหตุการณ์สยองเสียสิ้น และต่อมาพี่วีระได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด โดยไม่ลืมดึงผมขึ้นไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ผมกับพี่วีระจึงยุติการใช้ ชีวิตบนท้องถนนตั้งแต่นั้นมา โดยจัดทำรายการเป็นรายๆ ไป ระยะทางจากบ้านผมไปตลาดก็ประมาณร่วมๆ 2กิโลเมตรเศษซึ่งผมและภรรยาจะต้องขี่รถจักรยานยนต์ออกไปทุกวันโดยขับไป คนละคัน คันหนึ่งคือคันที่ผมขับจะต้องใช้เป็นรถที่ใช้ส่งสินค้าตามรถยนต์ของลูก- ค้าตามบัญชีที่สังของ ซึ่งบางครั้งก็ไกลบ้าง ใกล้บ้างตามธรรมดา สองช้างทาง ระหว่างบ้านผมกับตลาดแต่เริ่มเดิมที ครั้งสมัยที่ยังเป็นตำบลอยู่ มืดสนิท ไม่มี แม้แต่ไฟฟ้าสักดวง ที่จะคอยให้แสงสว่าง ทำให้การเดินทางไปตลาดแต่ละครั้ง เหมือนๆ กับขับรถผ่านปาช้ายังไงก็ยังงั้น ทั้งน่ากสัว ทั้งวังเวง เพราะนานๆ  แพยางเล่นน้ำแฟนซี จะ มืรถบรรดาพ่อค้าแม่ค้าด้วยกันผ่านไปขักคันหนึ่ง แต่ที่น่ากลัวมากกว่านั้นคือ บรรดามิจฉาชีพ ที่จะคอยดักจี้ ปล้น โดยไม่เว้นแต่ละเดือน มากบ้างน้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับความปรารถนาของเหล่ามิจฉาชีพเหล่านี้ ส่วนเราๆ ท่านๆ ก็ต้อง ระวังตัวกันเอาเอง ครั้นจะไปแจ้งความร้องทุกข์นะรึ...ก็ใช่ว่าเจ้าหน้าที่เขาจะไม่ รับแจ้ง รับแจ้งแล้วก็ลงบันทึ

แพยางโดนัส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น